วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

creative thinking

                                                                     creative thinking

                      Michael later applied these creative-thinking techniques to problems in the corporate world with outstanding successes.  Michael has provided keynote speeches, workshops, and seminars on fostering creative thinking for clients who range from Fortune 500 corporations, such as DuPont, Kellogg's, General Electric, Kodak, Microsoft, Exxon, General Motors, Ford, USA, AT&T, Wal-Mart, Gillette, and Hallmark, to associations and governmental agencies.  In addition to his work in the United States, Michael has worked with clients in countries around the world.

                                                                  ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
                    
                     ไมเคิลต่อมาใช้เทคนิคการคิดสร้างสรรค์เหล่านี้ - ปัญหาในโลกธุรกิจที่มีความสำเร็จโดดเด่น ไมเคิลได้ให้บริการการกล่าวคำปราศรัยประเด็นสำคัญ, การประชุมเชิงปฏิบัติการและสัมมนาในอุปถัมภ์ความคิดสร้างสรรค์สำหรับลูกค้าที่ช่วงจากฟอร์จูน 500 บริษัท เช่นดูปองท์, Kellogg 's, General Electric, Kodak, Microsoft, บริษัท เอ็กซอน, General Motors, Ford, USA, AT & T, Wal - Mart , ยิลเลตต์และฮอลล์ในการสมาคมและหน่วยงานของรัฐ นอกเหนือจากการทำงานของเขาในประเทศสหรัฐอเมริกาไมเคิลได้ทำงานร่วมกับลูกค้าในประเทศต่างๆทั่วโลก

Creative Thinking 

วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง


สามหัวข้อสองเงื่อนไข

ทฤษฎีใหม่ เป็นแนวทางในการพัฒนาที่นำไปสู่ความสามารถในการพึ่งตนเอง ในระดับต่าง ๆ อย่างเป็นขั้นตอน โดยลดความเสี่ยงเกี่ยวกับความผันแปรของธรรมชาติ หรือการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยต่าง ๆ โดยอาศัยความพอประมาณและความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี มีความรู้ ความเพียรและความอดทน สติและปัญญา การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และความสามัคคี
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ จึงประกอบหลักการหลักวิชาการ และหลักธรรมหลายประการ อาทิ(๑) เป็นปรัชญาแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน       จนถึงระดับรัฐ

(๒)
เป็นปรัชญาในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง

(๓)
 จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจให้ก้าวทันโลกยุคโลกาภิวัตน เพื่อให้สมดุล และพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่าง
     รวดเร็ว กว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม จากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี

(๔)
 ความพอเพียง หมายถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผลรวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอ
      สมควรต่อ การมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน

(๕)
 จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวัง อย่างยิ่งในการนำวิชาการต่างๆมาใช้ในการวางแผน
      และดำเนินการ ทุกขั้นตอน

(๖)
 จะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ  
     ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตและให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร  
      มีสติปัญญาและความรอบคอบ


องค์ประกอบด้านลักษณะ ความพอเพียงต้องประกอบด้วย 3 ลักษณะ ดังนี้• ความพอประมาณ
หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
เช่นการผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ อาจกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือการยึดตนอยู่บนทางสายกลางก็เป็นได้
• ความมีเหตุผล
หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัย
ที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ

• การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว
หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึง
ความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล คือการ
เตรียมพร้อมรับมือกับการแก้ปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้น

วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

หลักพื้นฐานของการสร้างธรรมาภิบาล

หลักการพื้นฐานของการสร้างธรรมาภิบาล
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี  ว่าด้วยการสร้างระบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี พ.ศ.2542 ระบุว่าธรรมาภิบาลมีองค์ประกอบ 6 ประกอบ คือ

1. หลักนิติธรรม ได้แก่ การตรากฏหมาย  กฎ  ข้อบังคับต่าง ๆ ให้ทันสมัยและเป็นธรรม   เป็นที่ยอมรับของสังคม  ไม่เลือกปฏิบัติ  และสังคมยินยอมพร้อมใจปฏิบัติตามกฎหมายและกฎข้อบังคับเหล่านั้น  โดยถือว่าเป็นการปกครองภายใต้กฎหมาย  มิใช่ตามอำเภอใจ หรือตามอำนาจของตัวบุคคล

2. หลักความโปร่งใส ได้แก่ การสร้างความไว้วางใจซึ่งกัน  โดยมีการให้และการรับข้อมูลที่สะดวกเป็นจริง  ทันการณ์  ตรงไปตรงมา  มีที่มาที่ไปที่ชัดเจนและเท่าเทียม  มีกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องชัดเจนได้

3. หลักการมีส่วนร่วม ได้แก่ การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้  และร่วมคิด  ร่วมเสนอความเห็นในการตัดสินใจปัญหาสำคัญของประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น การแจ้งความเห็น  การไต่สวนสาธารณะ  การประชาพิจารณ์  การแสดงประชามติ  นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการร่วมตรวจสอบ  และร่วมรับผิดชอบต่อผลของการกระทำนั้น

4. หลักความรับผิดชอบตรวจสอบได้ ได้แก่ ความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้เป็นการสร้างกลไกให้มีผู้รับผิดชอบ  ตระหนักในหน้าที่  ความสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม  การใส่ใจปัญหาสาธารณะของบ้านเมือง  และกระตือรือร้นในการแก้ปัญหา   ตลอดจนการเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง  และความกล้าที่จะยอมรับผลจากการกระทำของตน

5. หลักความคุ้มค่า ได้แก่ การบริหารจัดการและการใช้ทรัพยากรที่มีจำกัด  ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวม


6. หลักคุณธรรม ได้แก่ การยึดมั่นในความถูกต้องดีงาม  สำนึกในหน้าที่ของตนเอง  มีความซื่อสัตย์สุจริต  จริงใจ  ขยัน  อดทน  มีระเบียบวินัย  และเคารพในสิทธิของผู้อื่น

บทนำของเศรษฐกิจพอเพียงกับเทคโนโลยีการศึกษา

เศรษฐกิจพอเพียงกับเทคโนโลยีการศึกษา

      การใช้ เศรษฐกิจพอเพียงสำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( sufficiency economy using for ICT) การใช้ เศรษฐกิจพอเพียงสำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
     เศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง ทางสายกลาง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ  ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสมดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียรมีสติปัญญาและความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุสังคมสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม จากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
     เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  ( ICT ) หมายถึง  การใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาเพื่อให้ได้มาข้อมูลและข่าวสาร การติดต่อ  การทำกิจกรรมต่าง ๆ  การ ส่งข้อมูลข่าวสาร และติดต่อปฏิสัมพันธ์กัน เป็นต้น
                ปัญหาการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ คือ เนื่องจากเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่นับว่าทันสมัยและเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วมาก เช่น คอมพิวเตอร์  โทรศัพท์มือถือ  ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ เป็นต้น ปัญหาก็คือ 1. ตัวผู้ใช้เทคโนโลยีสามารถใช้เทคโนโลยีได้ดีมากน้อยแค่ไหน ใช้คุมค่าไหม  จำเป็นต่อการใช้เทคโนโลยีชิ้นที่แพงนั้นหรือเปล่า  2. คนไม่สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า  3.  บุคคลที่มีความรู้ความสามารถจริงในเรื่องเทคโนโลยีมีน้อย 4.การศึกษาของคนในประเทศส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำ  เป็นต้น เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาการนำเทคโนโลยีมาใช้
                การศึกษากับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คือ สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาที่ได้ยกตัวอย่างมาแล้วนั้นต้นเหตุหลักประการหนึ่ง คือ การขาดโอกาสทางการศึกษา ความยากจน เป็นต้นเพราะการศึกษาเป็นกุญแจนำไปสู่การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังพุทธพจน์ว่า  นัตถิ ปัญญา สมา อภา แสงสว่างเปรียบเสมือนปัญญาไม่มี  ปัญญาก็คือตัวความรู้นั้นเอง ฉะนั้น รัฐ ต้องส่งเสริมให้คนทุกคนมีการศึกษาและคุณธรรมก่อน โดยเฉพาะให้การศึกษาเกี่ยวกับทางสายกลาง หรือเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิต ในการประกอบอาชีพ และการใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศที่ทันสมัยในการหาข้อมูล เพราะถือว่าในโลกอนาคตจะเป็นคลังอาวุธคลังปัญญาที่ดีเยี่ยม
                ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ คือ ภาครัฐ  สภาพแวดล้อม เช่นมหาวิทยาลัย  สังคม  ครอบครัว  ตัวผู้ใช้ ( ต้องมีความกระตือรือร้นและยอมรับในเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อแบบใหม่ที่นำ มาใช้ )  ต้องสนับสนุนส่งเสริมและต้องสนับสนุนส่งเสริมปลูกฝังตั้งแต่เด็ก เช่น ให้เป็นนโยบายหลักของชาติ ให้งบประมาณมากเพียงพอ
                การนำเศรษฐกิจพอเพียงกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ คือ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต้องใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระ ราชดำรัส ได้แก่ รู้จักใช้ตามความจำเป็น และตามกำลังทรัพย์ของคนนั้น หรือเรียกว่ารู้จักใช้พอประมาณ  ตามเหตุผล ไม่ไปตามกระแสโลกประกอบกับใช้หลักธรรมเข้ามาช่วย เช่น ไม่ใช้เทคโนโลยีไปในทางที่ผิด และหมั่นดูแลรักษาตลอดถึงในการใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดตามความจำเป็น
      การเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้นกระทรวง ศึกษาธิการดำเนินการด้วยการให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก ผ่านการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ผ่านโครงการต่างๆ ในแต่ละระดับ ได้แก่
1.ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดทำโครงการขับเคลื่อนหลักคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา เพื่อเป็นการนำนโยบายการปฏิรูปการศึกษา โดยใช้คุณธรรมนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติ โดยให้สถานศึกษาเป็นศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้ในชุมชน พร้อมสร้างเครือข่ายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิตพอเพียง ให้เกิดการพัฒนาที่สมดุลอย่างยั่งยืน
2.การศึกษาเอกชน ได้จัดการประชุมสัมมนาเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางการปฏิบัติงานโดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง
3.ระดับอาชีวศึกษา ได้มีการประชุมปฏิบัติการบูรณาการแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการ จัดการเรียนการสอน การบูรณาการกิจกรรม และการดำเนินการศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน
4.ระดับอุดมศึกษา ได้ให้สถาบันอุดมศึกษาน้อมนำพระราชดำรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ อย่างเหมาะสม เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันทางสังคม รวมทั้งปรับเปลี่ยนกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
 เทคโนโลยีการศึกษากับการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการเตรียมตัวในการจัดการศึกษาเพื่อทำให้เข็มแข็ง สามารถสู้กับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้หมด โดยอาศัยการประยุกต์ใช้หลักพอประมาณ หลักมีเหตุผล หลักภูมิคุ้มกัน  โดยกระบวนการในการจัดการเชิงกลยุทธ์ซึ่งประกอบด้วย การวางแผนกลยุทธ์ การนำกลยุทธ์ไปสู่ปฏิบัติ การควบคุมและประเมินผลเชิงกลยุทธ์ ความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับสถานศึกษาต้องคิดเอง เพราะแต่ละสถานศึกษาไม่เท่ากัน พัฒนาการสถานศึกษาทั้ง ๔ ภารกิจไม่เท่ากัน และตัวชี้วัดก็ต้องคิดเอง ถ้าทำอย่างนี้จะมีแผนพัฒนาสถานศึกษาที่บูรณาการรอบด้าน โดยสรุปแล้วเชื่อว่าปรัชญานี้มีประโยชน์ ถ้าทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง ผู้ปฏิบัติจะเกิดความสุขและความสำเร็จอย่างยั่งยืน

สรุบในความคิดของตนอง

             เป็นปรัชญาที่ชี้แนวทางการดำรงชีวิต ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสแก่ชาวไทยถูกพูดถึงอย่างชัดเจนเพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในกระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆเเละยังมีบทบาทต่อการกำหนดอุดมการณ์การพัฒนาของประเทศเศรษฐกิจพอเพียงยังเป็นทางสายกลาง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ  การนำเศรษฐกิจพอเพียงกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ คือ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต้องใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระ ราชดำรัส ได้แก่ รู้จักใช้ตามความจำเป็น และตามกำลังทรัพย์ของคนนั้น หรือเรียกว่ารู้จักใช้พอประมาณ  ตามเหตุผล ไม่ไปตามกระแสโลกประกอบกับใช้หลักธรรมเข้ามาช่วย เช่น ไม่ใช้เทคโนโลยีไปในทางที่ผิด และหมั่นดูแลรักษาตลอดถึงในการใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดตามความจำเป็น เศรษฐกิจพอเพียงกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ คือ อย่างแรก ต้องคำนึงถึงเรื่องการศึกษาเป็นสำคัญเพราะการศึกษาเป็นกุญแจนำไปสู่การเรียนรู้คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้ การได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ  สภาพแวดล้อม  สังคม  และโดยเฉพาะ ครอบครัวและตัวผู้ใช้เอง  การรู้จักใช้เทคโนโลยีนั้นให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดและตามความจำเป็น จะเห็นว่าเศรษฐกิจพอเพียงสามารถจะนำไปประยุกต์ได้กับทุกสาขาอาชีพ   ทุกสภาพการณ์   ทุกชีวิตของคนเรา ตั้งทั้งนี้ทั้งนั้น คุณธรรมจริยธรรมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การสร้างE-mail

การสร้าง Email ใหม่

ikok's picture
8812
posts
| Tags:

การสร้างอีเมล์ใน Mail สามารถทำได้ดังนี้
ใน Mail บน menu bar เลือก New Message
Picture1_30.jpg
เข้าสู่หน้าต่างเขียนอีเมล์ใหม่Picture2_27.jpg
เหมือนขั้นตอนการสร้างอีเมล์บน webmail ทั่วไปครับ มีส่วนประกอบตามนี้
To : ระบุ Email ผู้รับที่เราต้องการจะส่งถึง
        Cc : การส่งสำเนาไปถึงผู้รับอื่น ๆ อีก
        Bcc :การส่งสำเนาไปถึงผู้รับอีื่น ๆ โดยที่จะไม่ระบุในอีเมล์ปลายทางว่าเราส่งสำเนาไปให้ใครบ้าง
Subject : กำหนดหัวข้อของ Email
From : เป็นการระบุว่าเมล์นี้ถูกส่งจากไหน ปรกติจะตั้งเอาไว้เป็น account แรกของเรา แต่ ถ้าเรามีหลาย account เราสามารถเลือกที่จะเปลี่ยนได้จากตรงนี้ครับ
Signature : ใส่ลายเซ็นของเราในข้อความ (เราต้องสร้างลายเซ็นขึ้นมาก่อน ดู การสร้างลายเซ็น ประกอบ)
Priority : กำหนดความสำคัญเร่งด่วนของอีเมล์
note : เราสามารถปรับแต่งให้แสดง หัวข้อเหล่านี้ได้จากการกดเข้าไปที่ปุ่มเล็ก ๆ (แถวเดียวกับ Subject) แล้วเลือกเปิดปิดหัวข้อที่เราไม่ต้องการได้
add-feild.jpg
บน Tool bar
mail-toolbar.jpg
มีคำสั่งต่าง ๆ ดังนี้
button-send.jpg
Send : ส่งอีเมล์ที่เราเขียนเสร็จแล้วออกไปหาผู้รับ
button-chat.jpg
Chat : ถ้า Buddy ใน iChat ของเราออนไลน์เราสามารถเห็นได้จากตรงนี้
button-attach.jpg
Attach : เพิ่มไฟล์แนบ
button-addressbook.jpg
Address : ใส่อีเมล์ผู้รับลงในหัวข้อ To, Cc, Bcc โดยเลือกจาก contact ใน address book ของเรา
button-font.jpg
Font : ปรับแต่งเกี่ยวกับตัวอักษรที่ใช้พิมพ์ในเนื้อหาอีเมล์
button-color.jpg
Color : ปรับแต่งสีของตัวอักษร (ใช้ได้กับอีเมล์แบบ Rich Text เท่านั้น ถ้าเราใช้กับ Plaintext โปรแกรมจะถามเราว่าต้องการ convert อีเมล์ที่เราเขียนให้เป็น Rich text หรือไม่)
button-saveasdraft.jpg
Save as draft : เป็นการร่างอีเมล์เก็บเอาไว้ก่อน (เมื่อ save as draft แล้วอีเมล์ที่ save ไปนี้จะไปอยู่ในส่วนของ Mailbox/Draft )
button-richplaintxt.jpg
Rich Text, Plain Text : ปุ่มนี้จะให้เราเลือก format ของอีเมล์ที่เราเขียนครับ
  • Rich Text : จะเป็นอีเมล์แบบปรับเปลี่ยนสีของตัวหนังสือ หรือว่าใส่ link เข้าไปที่ตัวหนังสือได้เลย ทำให้ดูดีกว่าแบบ Plain text แต่การแสดงผลที่ไม่สม่ำเสมอ ขึ้นอยู่กับโปรแกรมอีเมล์ที่ใช้ และแต่ละโปรแกรมก็จะมีวิธีการแสดงผลอีเมล์แบบ Rich text ไม่เหมือนกัน - -’
  • Plain Text : เป็นอีเมล์ปรกติที่ไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไรมากนัก แต่ว่าเข้ากันได้ดีกับระบบอีเมล์ส่วนใหญ่ (แสดงผลไม่ค่อยผิดพลาดบนโปรแกรมต่าง ๆ ด้วย)

button-textsize.jpg

Text size : ปรับเปลี่ยนขนาดตัวอักษร
button-photobrowser.jpg
Photo Browser : เรียกใช้งาน Photo Browser เพื่อเข้าไปดึงรูปจาก iPhoto หรือ Library อื่น ๆ มาใส่ในอีเมล์ (ดูหัวข้อถัดไปเรื่องการใช้ Stationary ประกอบ)
button-stationary.jpg
Show Stationary : เป็น Template อีเมล์แบบ Rich text สวยงาม (ดูหัวข้อถัดไปประกอบ)
จากนั้นก็เริ่มเขียนข้อความ เมื่อเสร็จแล้ว กด Send เป็นการส่งเมล์ออกไปหาผู้รับ
ยิ้ม
การสร้างอีเมล์ด้วย Stationary
Picture3_26.jpg
กดปุ่มนี้ครับ แล้วเราจะเห็นหน้าต่างที่เป็น Template โผล่ขึ้นมาเนื้อช่องเนื้อหาอีเมล์ของเรา
Picture5_19.jpg
เป็น Template ที่มีหลากหลายประเภทให้เลือกนะครับ ลองเลือกดู
Picture4_13.jpg
จากนั้นก็ใส่รูป + เนื้อหา
Picture6_13.jpg
เลือกปุ่ม Photo Browser เพื่อเปิดหน้าต่าง Photo Browser ขึ้นมาให้เราสามารถเข้าไปดึงรูปจากใน iPhoto Library หรือจาก Aperture ได้ มีรูปร่างหน้าตาแบบนี้ครับ
Picture7_15.jpg
ด้านบนจะให้เราเลือกว่าจะเข้าไปเอารูปจากไหนมาได้บ้าง (การแบ่ง album อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยบน iPhoto หรือว่า Aperture ช่วยตรงนี้ได้มากสุด ๆ ครับ)
Picture8-1_2.jpg
ที่เราต้องทำคือ ลากรูปจากใน Photo Browser มาลงในตำแหน่งรูปที่มีอยู่บน Template ครับ จากนั้นก็กดพิมพ์เนื้อหา แล้วเลือก Send เพื่อเป็นการส่งเมล์ออกเป็นอันเสร็จพิธีครับ ยิ้ม
ทดสอบการส่งอีเมล์ด้วย Stationary
Picture9_7.jpg
ผมลองทดสอบการใช้ Stationary ส่งออกหาผู้ใช้ Hotmail ดูนะครับ และนี่คือผลลัพท์ที่ได้ ดูดีไม่หยอก (รอยต่อของภาพบางส่วนใน hotmail นี้ต่อกันไม่สนิท แต่อยู่ในขั้นรับได้ และดูดีพอสมควรเลยนะครับ)
ลองเล่นกันดูนะครับ =)
ขอให้มีความสุขในการใช้ Mail ครับ

ความหมายการประยุคต์ใช้คอมพิวเตอร์เพื่องานอาชีพ

ความหมายของโปรแรมประยุกต์
            โปรแกรมประยุกต์  คือ  โปรแกรมที่มีความสามารถจัดการกับงานเฉพาะด้านโดยตัวโปรแกรมจะเหมาะสมและใช้งานได้ดีกับงานเฉพาะนั้น ๆ  เท่านั้น  โปรแกรมประยุกต์เหล่านนั้น  เช่น  โปรแกรมไมโครซอฟเวิร์ด  โปรแกมไมโครซอฟต์เอกซ์เซล  โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์  โปรแกรมประเภทเกมส์ต่าง ๆ เป็นต้น 


ประเภทของโปรแกรมประยุกต์
          โปรแกรมประยุกต์  คือ  โปรแกรมที่มีความสามารถจัดการกับงานเฉพาะด้านโดยตัวโปรแกรมจะเหมาะสมและใช้งานได้ดีกับงานเฉพาะนั้น ๆ  เท่านั้น  โปรแกรมประยุกต์เหล่านนั้น  เช่น  โปรแกรมไมโครซอฟเวิร์ด  โปรแกมไมโครซอฟต์เอกซ์เซล  โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอต์  โปรแกรมประเภทเกมต่าง ๆ เป็นต้น 
          1. โปรแกรมเวิร์คโพรเซสซิ่ง  (Word  Processing)
              โปรแกรมประเภทนี้จะเหมาะสำหรับจัดการกับงานประเภทเอกสาร  เช่น  การจัดพิมพ์  การตกแต่งจัดรูปแบบเอกสาร  เพื่อนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  เช่น  โปรแกรมไมโครซอฟเวิร์ค
          2. โปรแกรมสเปรดชีต  (Spreadsheets)
              โปรแกรมประเภทนี้จะถูกนำมาใช้กับงานที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณตัวเลขในลักษณะต่าง ๆ  เช่น  คำนวณตัวเลขทางบัญชี  เป็นต้น  ความสามารถในการคำนวณจะอยู่ที่ผู้ใช้กำหนดสูตรให้โปรแกรมคำนวณตามสูตรที่กำหนด  เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลนำเข้า ผลลัพธ์จะถูกปรับปรุงให้สอดคล้องกับข้อมูลนำเข้าโดยอ้างอิงจากสูตรที่ใช้ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้คือ  โปรแกรมไมโครซอฟต์เอกซ์เซล
          3. โปรแกรมฐานข้อมูล  (Database)
              โปรแกรมประเภทนี้จะถูกนำมาใช้กับงานที่เกี่ยวข้องกับการจักเก็บและสืบค้นข้อมูล  ซึ่งข้อมูลบางอย่างที่มีปริมาณมาก ๆ  เช่น  ข้อมูลประวัตินักศึกษา  ข้อมูลผลการเรียนของนักเรียนนักศึกษา  ควรจะมีการจัดเก็บให้เป็นระบบ  ซึ่งการจัดเก็บข้อมูลโดยใช้โปรแกรมฐานข้อมูลจะมีการจัดแยกประเภทข้อมูลเดียวกันเก็บไว้ด้วยกัน  เมื่อต้องการนำข้อมูลส่วนใดมาใช้ก็สามารถเรียกใช้เฉพาส่วนที่ต้องการได้ แต่จะยังคงความสัมพันธ์กับข้อมูลที่มีความสัมพันธ์เช่นเดิม เมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขก็จะมีการแก้ไขกับข้อมูลที่สัมพันธ์กันนั้นด้วย ตัวอย่างเช่น โปรแกรมไมโครซอฟต์แอคเซส โปรแกรมวิชวลฟอกซ์โปร เป็นต้น
         4. โปรแกรมทางด้านพรีเซนเทชั่น
             โดยทั่วไปโปรแกรมประเภทนี้จะถูกนำมาใช้งานที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอข้อมูล เช่น การนำเสนอในที่ี่ประชุม การนำเสอนข้อมูลสินค้าเพื่อโฆษณาในงานแสดงสินค้า เป็นต้น โปรแกรมประเภทนี้จะมีความสามรถในการนำเสนอทั้งที่เป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวและเสียงด้วยกัน ตัวอย่างเช่น โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์
         5. โปรแกรมด้านการออกแบบ/เขียนแบบกราฟิก
            
 โปรแกรมประเภทนี้จะเหมะกับงานที่มีการใช้การออกแบบ/เขียนแบบโครงสร้างต่าง ๆ   เช่น  บ้าน  อาคารต่าง ๆ  รวมไปถึงการจัดการเกี่ยวกับรูปภาพ  เพื่อให้มองเห็นโครงสร้างต่าง ๆ  ในมุมมองมีแตกต่างกัน 
ส่วนงานที่กี่ยวข้องกับรูปภาพหรือกราฟิกต่างๆ  เช่น  การตกแต่ง  หรือตัดต่อรูปภาพเพื่อนำไปใช้งานตามวัตถุประสงค์ต่าง  ๆ  ได้แก่  โปรแกรม  CorrelDraw, Photoshop  เป็นต้น
          6. โปรแกรมอรรถประโยชน์  (Utility)
              เป็นโปรแกรมที่ใช้แก้ปัญหาทางข้อมูล  โปรมแกรมในเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์ให้ใช้งานได้ดีตลอดไป  เช่น  โปรแกรมตรวจสอบและกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์  (Norton Antivirus , Scan , Mcafee)  โปรแกรมตรวจสอบและจัดรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลในแหล่งเก็บข้อมูล  เช่น  Scandisk , Defrag  ใน  Windows  เป็นต้น

วิธีการสร้างบล็อก











สร้างเว็บบล็อก(Blogger)
1.เข้าไปที่ http://www.blogger.com/จะแสดงหน้าจอแบบนี้ ให้คลิกที่ สร้างเว็บบล๊อกของท่านเดี๋ยวนี้
2.เมื่อท่านคลิกนี้ จะปรากฎเป็นรูปเว็บบล็อก
3. ให้ใส่รายละเอียด-ที่อยู่อีเมล : (จากที่ท่านได้สมัคร Gmail มาแล้วก่อนหน้านี้)-Enter Password : (ใส่รหัสผ่าน)-พิมพ์รหัสผ่านอีกครั้ง-Displya name (ตั้งชื่อที่จะให้แสดงตอนโพสเว็บบล็อก)-พิมพ์ตามอักษรที่ปรากฎให้ถูกต้อง-คลิกดำเนินต่อไป

4.จากนั้นให้ตั้งชื่อ เว็บบล็อกของท่าน-คลิกที่ตรวจสอบ เพื่อตรวจเช็คดูว่า มีใครใช้ชื่อนี้ไปหรือยัง ถ้ามีแล้วระบบจะแจ้งเตือนว่าใช้ไม่ได้ และจะมีตัวเลือกให้เราโดยอัตโนมัต ถ้าชอบใจตัวไหน ก็คลิกที่ชื่อด้านล่างตัวนั้นได้ แต่ถ้าต้องการชื่ออื่นอีกก็ตรวจสอบจนกว่าจะได้ชื่อที่คุณพอใจ เมื่อได้ชื่อตามที่ต้องการแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไป

5.จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกแม่แบบว่า เราต้องการเว็บบล็อกรูปแบบไหน มีให้เลือกมากมายตามต้องการสามารถคลิกเพื่อดูตัวอย่างแม่แบบได้ เมื่อได้แม่แบบตามที่เราชอบแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไป

ต่อไปกดเริ่มต้นการส่งบทความทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า Google AdSense ยังไม่รองรับเว็บไซต์ภาษาไทย แต่ในอนาคตคาดว่า ทาง Google AdSense จะยอมรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เป็นภาษาไทย ดังนั้น ควรนำเว็บบล็อกที่มีเนื้อหาภาษาอังกฤษมาทำการสมัครให้ผ่านก่อน โดยไปหาเนื้อหาภาษาอังกฤษ ได้ที่นี่ โดยคุณควรจะเลือกทำเรื่องใดเรื่องหนึ่ง